เริ่มต้นจากการตบมือ
การเรียนดนตรีของเด็กในแต่ละวัยจะมีความแตกต่างกัน ที่จริงแล้วเด็กๆสามารถเริ่มเรียนดนตรีได้ตั้งแต่อายุ 1-3 ขวบ โดยสามารถเริ่มต้นจากการตบมือ และเคาะด้วยจังหวะ เลือกเพลงที่มีจังหวะง่าย ๆ ที่สามารถจับคู่กับจังหวะมือ หรือจังหวะเต้น พร้อมใช้อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ของเล่น หรือตุ๊กตาสามารถเพิ่มเข้าไปในกิจกรรมเพื่อให้น่าสนใจสำหรับเด็กมากยิ่งขึ้น
สร้างความคุ้นชินเสียงดนตรีด้วยการร้องเพลง
เพลงสามารถสอนแนวความคิดและเรื่องราวต่าง ๆ เช่นการร้องเพลงเพลง ABC สามารถช่วยให้เด็กเรียนรู้ตัวอักษรสิบอินเดียนแดงน้อยสอนการนับ หากลูก ๆ ของคุณชอบเพลงพวกเขาจะฟังมันไปเรื่อย ๆ และนั่นจะช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ผ่านการทำซ้ำ
เริ่มเล่นเครื่องดนตรีจริง
เมื่อลูกของคุณมีการสัมผัสกับดนตรีตั้งแต่เนิ่น ๆ เค้าจะเริ่มมีความคุ้นชินในเสียงดนตรี ลองให้เค้าได้ลองจับเครื่องดนตรีจริง โดยเริ่มต้นด้วยเครื่องดนตรีที่ใช้เพียงกล้ามเนื้อมือ ไม่ต้องออกแรงที่เด็กๆสามารถเล่นได้โดยการเขย่า เพื่อให้เกิดเสียง หรือแตะสัมผัส เมื่อเด็กๆเริ่มเข้าใจในการเล่นดนตรี จึงค่อยๆเปลี่ยนไปเล่นเครื่องดนตรีที่มีความซับซ้อนมากขึ้น อย่างเช่น ‘เปียโน’
เปียโนเริ่มเล่นได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่
จริงๆแล้วการเล่นเปียโน ต้องใช้ประสาทสัมผัสในแต่ละส่วนของร่ายกายค่อนข้างมาก ทั้งการอ่านโน๊ต การจดจำเสียง การมอง การฟัง และการกดโดยใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งถ้าเริ่มเรียนได้ตั้งแต่ยังเล็ก ประมาณ 2.5-3.5 ขวบจะทำให้เด็กๆ จดจำ และใช้ประสาทสัมผัสได้ในการเล่นได้ดีกว่าการเริ่มเล่นตอนโต โดยเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อมัดเล็กได้อีกด้วย สำคัญคือการหัดเล่นบ่อยๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อนิ้วมือชินกับการเล่น เมื่อเริ่มโต พออ่านโน๊ตได้ ระบบประสาทสัมผัสในการเล่นทั้งหมด ก็จะทำงานร่วมกันได้อย่างดี
ข้อสรุป
เด็กๆสามารถเริ่มเรียนดนตรีได้ตั้งแต่ 1-3 ขวบ ซึ่งจะเริ่มจากการฟัง และตบมือง่ายๆ แล้วต่อด้วยการร้องและเต้น เมื่อเด็กๆเริ่มคุ้นชินกับเสียงดนตรี สามารถเริ่มจับเครื่องดนตรีแบบง่ายๆได้ แล้วค่อยๆขยับมายังเครื่องดนตรีที่มีความซับซ้อนอย่างเปียโน การเริ่มเรียนตั้งแต่ยังเล็ก จะส่งผลให้ความสามารถ ทักษะทางด้านการเล่นดีกว่าการเริ่มเล่นในเด็กโต คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกๆเริ่มเรียนเปียโนได้ตั้งแต่ 2.5-3.5 ขวบเลยนะคะ เพราะการเรียนเปียโนนอกจากจะให้ความเพลิดเพลินในเสียงเพลงแล้ว การเล่นเปียโนยังมีประโยชน์ต่อพัฒนาการของเด็กๆในหลายๆด้านเลยค่ะ
ขอบคุณที่มา: http://www.seimpi-music.com.sg/site/blog/273-age-to-learn.html