ความแตกต่าง

music can be applied with marketing and branding

การประยุกต์ใช้ดนตรีกับการตลาดและการสร้างแบรนด์

การประยุกต์ใช้ดนตรีกับการตลาดและการสร้างแบรนด์ By  Thai Pianist, 26 April 2023 รู้หรือไม่? ดนตรีสามารถใช้เป็นเครื่องมืออันทรงพลังทางการตลาดและการสร้างแบรนด์ ดนตรีสามารถใช้เป็นเครื่องมืออันทรงพลังทางการตลาดและการสร้างแบรนด์เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เริ่มตั้งแต่เสียงกริ๊งไปจนถึงเพลงประกอบ เพราะดนตรีมีบทบาทสำคัญในการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์และสร้างความเชื่อมโยงกับผู้บริโภคนั่นเอง หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของดนตรีในด้านการตลาดคือการใช้เสียงกริ๊ง เสียงกรุ๊งกริ๊งที่ติดหูสามารถติดอยู่ในใจของลูกค้าได้นานหลังจากที่พวกเขาได้ยิน สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับแบรนด์ บริษัทต่างๆ เช่น McDonald’s, Kit Kat และ Coca-Cola ต่างใช้เสียงกริ๊งในแคมเปญโฆษณา และผลที่ตามมาก็คือแบรนด์กลายเป็นที่จดจำได้ทันทีอย่างน่าเหลือเชื่อ นอกจากเสียงกริ๊งแล้ว ดนตรียังสามารถใช้สร้างอารมณ์เฉพาะ หรือความรู้สึกในโฆษณา ตัวอย่างเช่น เพลงบัลลาดโรแมนติก สามารถใช้เพื่อกระตุ้นความรู้สึกของความรักและความอบอุ่น ในขณะที่เพลงป๊อป ที่มีจังหวะสนุกสนานสามารถสร้างความรู้สึกของพลังงานและความตื่นเต้น การเลือกใช้เพลงที่เหมาะสมจะสามารถช่วยสื่อข้อความของโฆษณาและทำให้น่าจดจำยิ่งขึ้น ยังใช้เพลงเพื่อสร้างความรู้สึกคิดถึงวันวานได้อีกด้วย หลายแบรนด์ใช้ เพลงคลาสสิก ในแคมเปญโฆษณาเพื่อเข้าถึงอารมณ์และความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับเพลงเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น Volkswagen ใช้เพลง “Pink Moon” ของ Nick Drake ในโฆษณา ซึ่งเป็นดนตรีที่สร้างความรู้สึกคิดถึงอดีตและเชื่อมโยงกับแบรนด์ นอกจากนี้เพลงสามารถใช้สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ ด้วยการใช้เพลงเดียวกันในแคมเปญโฆษณาทั้งหมด แบรนด์สามารถสร้างเสียงที่แตกต่างและเป็นที่จดจำได้ทันที ซึ่งจะช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์และสร้างความคุ้นเคยกับลูกค้า ดนตรีจึงกลายมาเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ สนใจเรียนดนตรีกับ Thai Pianist …

การประยุกต์ใช้ดนตรีกับการตลาดและการสร้างแบรนด์ Read More »

กีต้าร์โปร่งกับกีต้าร์คลาสสิค แตกต่างกันอย่างไร?

กีต้าร์โปร่งกับกีต้าร์คลาสสิค แตกต่างกันอย่างไร? By  Thai Pianist, 22 November 2022 ในปัจจุบันกีต้าร์มีอยู่หลายประเภท แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงกีต้าร์สไตล์อะคูสติกที่หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี นั่นก็คือกีต้าร์โปร่ง หรือกีต้าร์โฟล์ค และกีต้าร์คลาสสิค กีต้าร์ทั้ง 2 ชนิดนี้ มีรูปร่างที่คล้ายคลึงกันจนคนส่วนใหญ่คิดว่ามันคือกีต้าร์ชนิดเดียวกัน แต่ถ้าหากสังเกตดีๆ จะมีจุดที่เป็นความแตกต่างกันอยู่หลายจุด มาลองดูความแตกต่างของ กีต้าร์โปร่ง และ กีต้าร์คลาสสิค ที่มีลักษณะเด่นๆ สามารถสังเกตได้แบบง่ายๆ กันค่ะ รูปทรงกีต้าร์ (คอกีต้าร์ และเฟร็ตกีต้าร์) กีต้าร์โปร่ง: คอจะมีความแคบและยาว เฟร็ตใกล้กัน ติดกันมากกว่า ทำให้การเคลื่อนย้ายนิ้วในการกดสายจะง่ายกว่า กีต้าร์คลาสสิค: คอจะมีความกว้าง และเฟร็ตมีระยะห่าง ทำให้ต้องยืดนิ้วในการกดสายกว้างกว่ากีต้าร์โปร่ง สายกีต้าร์ กีต้าร์โปร่ง: เป็นสายลวดทั้งหมด 6 สาย ทำให้เสียงมีความสดใส กังวาล กีต้าร์คลาสสิค: สาย 1-3 จะเป็นสายไนลอน หรือเส้นเอ็น ส่วนสาย 4-6 จะเป็นสายลวด ทำให้เสียงที่ได้จะมีความทุ้มและนุ่มนวล ลักษณะรูปแบบการเล่น …

กีต้าร์โปร่งกับกีต้าร์คลาสสิค แตกต่างกันอย่างไร? Read More »